ประเภทของ ผ้ากันแดด & ผ้าโปร่ง กับข้อดีที่คนมีบ้านควรเช็ค!
ส่วนใหญ่แล้วผ้าที่นิยมนำมาตัดเป็น ผ้าม่าน มักจะใช้ผ้าโปร่งและผ้ากันแดด เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ตัวบ้านดูสวยงามแล้ว ผ้าม่านทั้ง 2 ประเภทยังมีข้อดีที่แตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งถ้าใครที่กำลังลังเลว่าจะติดผ้าม่านแบบไหนดี เรามาทำความรู้จักกับผ้า 2 ประเภทกันดีกว่า
• ผ้ากันแดด
ผ้ากันแดดเป็นที่ผ้าอีกชนิดที่นิยมมาทำผ้าม่านในบ้านเรามาก เพราะนับวันอุณหภูมิในบ้านเรามีแต่ร้อนขึ้น การติดผ้ากันแดด นอกจากช่วยลดความร้อนแล้วยังช่วยประหยัดค่าแอร์ และยังป้องกันรังสียูวีได้อีกด้วย ซึ่งประเภทของม่านกันแดดแบ่งได้ 3 ประเภท คือ
- ผ้ากันแดดเคลือบโฟม ประเภทนี้ป้องกันแดดได้ดี 100 % แต่มีข้อเสียที่อายุการใช้งานจะไมคงทน และไม่สวยเท่าผ้ากันแดดชนิดอื่น เพราะจะสวยแค่หน้าเดียว
- ผ้ากันแดดยางซิลิโคน ช่วยป้องกันแดดได้100 % เช่นเดียวกัน แต่ซิลิโคนจะแตกหลุดออกจากผ้าม่านได้ง่ายเช่นกัน หากซักไม่ดี และยังขาดความพลิ้วไหวอีกด้วย
- ผ้ากันแดดรุ่นทอเส้นด้ายสีดำในตัว ได้รับความนิยมสูง เพราะมีหลายลวดลาย ทำจากอคริลิก ป้องกันความร้อนได้เกือบ 100 % ดังนั้นหากเลือกใช้ผ้ากันแดดประเภทนี้ แนะนำให้เลือกใช้สีเข้ม จะมีประสิทธิภาพมากกว่าสีอ่อน
คงเห็นกันแล้วใช่ไหมคะว่าผ้าแต่ละประเภทก็มีดีไม่เหมือนกัน แต่ถ้าอยากติดผ้าทั้ง 2 ด้วยกันก็ไม่ยาก แค่ทำม่าน 2 ชั้น คู่กันไปเลย สวยด้วย ได้ประโยชน์อีกด้วยจ้า
• ผ้าโปร่ง
ผ้าโปร่งช่วยเติมความนุ่มนวลให้กับบ้านได้อย่างลงตัวที่สุด แต่นอกเหนือไปกว่าความสวยงาม ผ้าโปร่งยังมีดี ดังนี้
- ช่วยปรับแสงภายในห้อง ทำให้บ้านดูสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟ เพราะหากใช้ม่านทึบบังแสง บ้านก็อาจจะมืดเกินไปก็ได้ค่ะ แสงที่ลอดส่องผ้าโปร่งจะให้ความนวล ดูซอฟกว่ามาก
- เพิ่มความเป็นส่วนตัว ม่านประเภทนี้ได้รับความนิยมตามหมู่บ้านจัดสรรที่ปลูกบ้านกันเรียงราย แน่นอนว่าเจ้าของบ้านต้องการความเป็นส่วนตัว และคนในบ้านก็สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์นอกบ้านได้ด้วย ม่านโปร่งยังเป็นที่ต้องการของคนที่อาศัยอยู่บนคอนโดมิเนียมที่ติดริมรถไฟฟ้าหรือริมถนนเช่นเดียวกัน
- ทำฉากกั้นห้องได้อย่างสวยงาม หากใครที่ชอบการแต่งห้องด้วยสไตล์ญี่ปุ่น การใช้ผ้าโปร่งมาทำฉากกั้นห้อง เช่น กั้นระหว่างเตียงกับทางเดิน กั้นทำส่วนบิวท์อินตู้เสื้อผ้า ผ้าโปร่งเป็นที่ถูกใจสำหรับสาว ๆ เพราะตกแต่งง่าย เข้ากับสีของห้องได้ และให้ความเป็นเจ้าหญิงนิด ๆ แต่ไม่หรูหราจนเกินไป